Haijai.com


เป็นคนหน้าใหญ่ สนใจเรื่องการปรับรูปหน้าให้ดูคม V shape


 
เปิดอ่าน 1871

Q : ลักษณะโครงหน้าของดิฉัน เป็นคนหน้าใหญ่ สนใจเรื่องการปรับรูปหน้าให้ดูคม และมีสัดส่วนที่สวยงาม ดูน่าเชื่อถือ เนื่องจากดิฉันทำงานโฆษณาอยากให้รูปหน้าตัวเองดูเฉี่ยวๆ เป็นผู้หญิงฉลาดๆ เป็นสาวมั่นใจ อยากทราบว่าตอนนี้มีเทคโนโลยีอะไรที่จะช่วยแก้ไขใบหน้าให้โดดเด่นมีมิติ V Shape บ้าง ซึ่งแต่ละเทคโนโลยีนั้นแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งที่เห็นจะมีเรื่องของการร้อยไหม Botox Thermage เป็นต้น นวัตกรรมเหล่านี้ มีข้อดีอย่างไรบ้างคะ

 

 

A : ในการที่จะปรับรูปหน้าให้เป็น V Shape นั้น เราควรมาพิจารณาว่าโครงหน้าที่ใหญ่นั้นเกิดมาจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะได้รักษาให้ตรงจุดและเกิดผลลัพธ์สูงสุด โครงหน้าใหญ่ หน้าบานหรือหน้าเหลี่ยม เกิดได้จาก 4 สาเหตุหลักๆ ดังนี้ กระดูก แนะนำควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมพลาสติกครับ ไขมัน  ในบางท่านที่มีไขมันบริเวณแก้มมาก แก้มจะป่องๆ ทำให้หน้าดูบานๆ ไม่คมชัดแนะนำการรักษาโดยใช้ OME formula เพื่อลดไขมันบริเวณแก้มและทำให้แก้มที่คล้อยแลดูกระชับขึ้นได้อีกด้วยครับ กล้ามเนื้อ อย่างที่ทราบกันดีว่าถ้ากรามใหญ่นั้นมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อที่มุมกรามมีขนาดใหญ่ ควรใช้ Botulinum Toxin Type A ในการปรับลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง และทำให้หน้าแลดูเป็น V shape ครับ

 

 

การหย่อนคล้อยและการเสื่อมของคอลลาเจนของชั้นผิวหนังที่หน้า ปัจจุบันมีเทคโนโลยีหลายอย่างที่ช่วยทำให้ผิวหน้าตึงกระชับ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ทำให้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้นกรอบหน้าดูคมชัดขึ้นและรูปหน้าเป็น V shape มากขึ้น ได้แก่ การทำ Thermage Ulthera และการร้อยไหมละลายชนิดต่างๆ ขณะนี้มีไหมละลายชนิดใหม่ Silhouette solf lift เป็นรูปแบบทรงกรวย ทำมาจาก Polylactic acid (PLA) ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ทำให้ยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ ในการที่จะพิจารณาทำกับอุปกรณ์ตัวใดนั้น ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชำนาญของแพทย์ ต่อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่มีอยู่ในคลินิกนั้นๆ ครับ หลายท่านมักจะไม่ได้มีสาเหตุหน้าใหญ่จากแค่สาเหตุเดียว บางท่านอาจะมี 2-3 สาเหตุ ดังนั้นการรักษาควรรักษาควบคู่กัน เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์สูงสุด

 

 

นพ.อิงควัชร์ เมธาโชติธนพัฒน์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและออกแบบปรับแต่งรูปหน้า

Medical Director ทองหล่อคลินิก

(Some images used under license from Shutterstock.com.)